การกลับมาอีกครั้งของโรงหนังในตำนาน พร้อมกับคอนเซปใหม่ ศิลปะวัฒนธรรม และ ความคิดสร้างสรรค์
สมัยก่อนถ้าใครเป็นเด็กสยามคงจะรู้จักกันดีกับโรงหนังในตำนานอย่างโรงหนัง “ลิโด” เป็นโรงหนังสแตนด์โลน ใจกลางกรุงเทพฯในย่านสยามสแคว์ ล่าสุดลิโด ได้ถูกชุบชีวิต เมื่อ LOVEiS ได้จับมือกับจุฬาฯ พลิกโฉมโรงภาพยนตร์ ลิโด ซึ่งเป็น 1 ใน 3 โรงภาพยนต์ในแบบ Stand Alone ในเครือ Apex ที่ได้ปิดตัวไปเมือ่วันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ เมื่อ สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) เป็นผู้ที่ถือสัมปทานพื้นที่สยามสแควร์ มีความต้องการที่จะให้สยามสแควร์ ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และ ไลฟ์สไตลืของคนรุ่นใหม่ โดยมี “LOEViS Entertainment” มาเป็นพันธมิตร โดยจัดตั้งบริษัท LIDO Connect ทางกลุ่ม LoveiS ถือหุ้น 70% และ อีก 30% เป็นผู้ถืดอหุ้นรายย่อย เพื่อชุบชีวิต “โรงภาพยนตร์ลิโด” ให้เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรม และ ความคิดสร้างสรรค์
ถ้าเราจะพูดถึง ลิโด คำแรกที่เราจะคิดถึงก็คือ โรงหนัง ถ้าเป็นวัยรุ่นเราต้องมาดูหนังที่นี่ก่อน สำหรับวัยรุ่นเมื่อสมัยก่อนที่เคยใช้ชีวิตอย่างแถวสยาม ต้องเคยมาที่ลิโดบ่อยแน่นอน หลายๆคนยังจำภาพเก่าๆของลิโดได้ดี เพราะว่ามันมีสไตล์ของมัน และ มันมีเอกลักษณ์ของมันอยู่ ในนามสำนักงานจัดการทรพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) ร.ศ. ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล (รองอธิการบดีด้านการจัดการทรัพย์สินและนวัตกรรม) มีความเป็นยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่วันนี้เราได้มีความร่วมมือ กับพันธมิตรที่มีความสามารถ คือคุณเทพอาจ กวินอนันต์ หรือคุณ JEEP ที่ได้มาร่วมมือทำให้ลิโด้ เป็นจุดเชื่อมต่อ ผู้ที่มีความสามารถต่างๆรวมเอาไว้ด้วยกันเช่น ด้านแฟชั่น ด้านการแสดง ทางรองอธิการบดี หวังว่าพื้นที่ LIDO Connect นี้ “จะเป็นพื้นที่ที่ให้โอกาส” แสดงตัวตน แสดงความคิด ออกสู่สาธารณะบนพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างสยามสแควร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นผู้นำในด้านต่างๆ ยาวนานกว่า 50 ปี สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การนำพื้นที่มาพัฒนา สร้างสิ่งดีๆให้กับสังคม จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างสังคมให้น่าอยู่ อย่างยั่งยืน
เป้าหมายหลักๆของ LIDO Connect ก็คือ “พื้นที่ ที่สร้างโอกาส” เป็นพื้นที่ที่ให้โอกาสคน ที่อยากจะมาแสดงออกเพราะว่าหลายๆคนมีความสามารถ แต่ไม่มี “โอกาส” ที่จะมาแสดงออกในพื้นที่สาธารณะที่มีคนเยอะๆ ในประเทศไทยคนเเก่งๆเยอะมากๆ เด็กที่มีความสามารถเจ๋งๆ เต็มไปหมดเลย แต่สิ่งนึงที่พวกเขาเหล่านี้ไม่มีก็คือ “โอกาส” เพราะฉะนั้นเราจะทำยังไงให้เขามี โอกาสในการมาโชว์ของในการมาบอกโลกใบนี้ว่าเขาเก่งยังไง? ทำให้สถานที่เป็นเรื่องที่สำคัญทางคุณเทพอาจ กวินอนันต์ เลยมองว่า ในเมื่อเรามีโอกาสได้มาทำที่ลิโด้แล้วเนี้ย ทำไมเราไม่ใช้ตรงนี้เป็นพื้นที่ มาโชว์สิ่งที่เรามี ในแง่ของศิลปะภาคต่างๆ ก็เลยทำให้เกินพื้นที่ที่ใช้ชื่อว่า LIDO Connect ขึ้นมา
สยามเป็นจุดศูนย์รวมของทุกๆอย่าง การที่ LIDO Connection มาอยู่จุดที่สามารถนำเทรนด์ และ opportunity มารวมกันได้แล้วเนี้ยมันวิเศษมากๆ ณ วันนี้น้องๆหลายๆคนก็ใช้พื้นที่ในโลกออนไลน์ ในการปล่อยของ แสดงออกต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น Facebook และ Youtube เป็นต้น แต่มันมีข้อจำกัดอยู่ตรงที่มันไม่ Live แตกต่างจากที่ LIDO Connection ซึ่งเป็นสถานที่ที่น้องๆสามารถจัดโชว์สดๆได้จริงๆ สามารถพบปะกับคนได้จริงๆ เล่นแล้วมี Eye Contact กับคนดูได้จริงๆ มันท้าทายมากกว่า เด็กยุคใหม่เด็กรุ่นใหม่ในยุคนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่แตกต่างจากยุคก่อนๆ สำหรับใครที่อยากจะเปิดโอกาสให้ตัวเอง ลองเดินทางไปที่ ลิโด้ คอนเนค ได้แล้วตั้งแต่วันนี้
