Virtual Run คืออะไร และ สร้างขึ้นเพื่ออะไร
Virtual Run ก็คือกิจกรรมการวิ่งที่นักวิ่ง สามารถสะสมระยะวิ่ง หรือ วิ่งเก็บระยะทางไปเรื่อยๆ เวลาไหนก็ได้ ในวันที่กำหนด ในเส้นทางที่ผู้วิ่งเป็นคนกำหนดเอง โดยการวิ่งแต่ละครั้งจะมีระยะที่กำหนด และ เงื่อนไขตามกิจกรรมนั้นๆ Virtual Run สามารถเรียกได้อีกชื่อนึงก็คือ Virtual Race การวิ่งแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น สามารถสมัครได้ง่ายๆ ด้วยการละทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ ข้อดีของ Virtual Run ก็คือ เราไม่ต้องเสียเวลาไปที่จุดสตาร์ท ไม่ต้องกดดันกับบรรยากาศการแข่งขันวิ่ง ไม่มีจุด Checkpoint ไม่ต้องไปวิ่งเบียดกับคนอื่น
การนับระยะทางวิ่งของ Virtual Run ทำยังไง ส่งผลแบบไหน?
หลายๆคนอาจจะงงกับกิจกรรม เวอร์ช่วลรัน ว่าสามารถรับระยะทางวิ่งแบบไหน หลายๆคนคิดมันอาจจะขี้โกงได้นะ กับการวิ่งแบบนี้ สำหรับการวิ่งในรูปแบบ Virtual Run ก็คือการเก็บระยะการวิ่งด้วยตัวเอง ผู้วิ่งสามารถเลือกลงทะเบียนก่อน หรือ หลังวิ่งก็ได้ แต่ต้องลงทะเบียนในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น สำหรับการส่งผลวิ่งก็ง่ายมาก คุณสามารถเก็บข้อมูลจาก Smartphone ของคุณ หรือ Smartwatch ซึ่งจะทำการเก็บข้อมูลการวิ่งของคุณในแต่ละวันที่คุณวิ่งอยู่แล้วและเมื่อสะสมระยะวิ่งจนครบกำหนด แล้วทำการส่งเพื่อตรวจสอบหลักฐานนั่นเอง การวิ่งในรูปแบบ “เวอร์ช่วลรัน” เป็นโปรแรมฝึกซ้อมอย่างนึง เพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกาย การกระตุ้นแรงใจ และ ฝึกวิ่งระยะไกล สำหรับเป้าหมายของการวิ่งแบบ Virtual Run ก็คือการซ้อม และ การได้รับรางวัลไปในตัวนั่นเอง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกเหรียญวิ่ง และ เสื้อวิ่ง
การทำงานของ Virtual Run ในปัจจุบัน
- ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมผ่านช่องทางออนไลน์ หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย ต้องเลือกระยะวิ่งที่ต้องการ และ ทำการจ่ายเงิน
- การวิ่งแต่ละโปรแกรมจะมีเงื่อนไขการวิ่งที่แตกต่างกันออกไป โดยแต่ละระยะวิ่งที่เลือก จะมีเวลากำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น วัน และ เวลาที่สามารถเริ่มวิ่ง และ วันสิ้นสุด ส่วนมากจะประมาณ 1 วัน ไปจนถึง 1 เดือน
- ข้อดีของการวิ่งแบบ เวอร์ช่วลรัน ก็คือเราสามารถวิ่งเก็บสะสมระยะทางได้ เพราะแอพบนมือถือ หรือ สมาร์ทวอทช์ สามารถบันทึกข้อมูลการวิ่งในแต่ละครั้งได้
- เราสามารถส่งหลักฐานการวิ่งแต่ละครั้ง แต่นักวิ่งต้องทำการส่งหลักฐานการวิ่งไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลของผู้จัด Virtual Run ด้วยตัวเอง ซึ่งการส่งอาจจะเป็นรูปภาพที่แคปมาจากมือถือ หรือ แอพพลิเคชั่น ประกอบไปด้วย วันและเวลา, ระยะทาง, รวมไปถึงรูปนักวิ่งด้วย
- ผู้จัดจะตรวจสอบผล และ ทำการจัดส่งรางวัล หลังจากส่งข้อมูลการวิ่งแล้ว ผู้จัดจะทำการตรวจผลการวิ่ง เมื่ออนุมัติว่าผ่าน ถึงจะจัดส่งรางวัลให้
ดูๆไปแล้วงานวิ่งในรูปแบบ เวอร์ช่วลรัน นั้นอาจจะดูดีไปซะหมด อยากวิ่งตอนไหนก็วิ่ง อยากจะเก็บระยะเมื่อไหร่ก็เก็บ แถมยังวิ่งที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ ไม่จำกัดสถานที่ แต่การวิ่งแบบ Virtual Run นั้นมันจะขาดบรรยากาศการวิ่งแบบในงานวิ่งไปอย่างสิ้นเชิงเลย เพราะว่ามันไม่มีการแข่งขัน ไม่มีความกดดันมากเท่าที่ควร ความกดดันที่มีก็คือ ระยะวิ่งที่ต้องวิ่งให้ครบตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ เหมือนกับการไปดูคอนเสริต์ BlackPink ติดขอบเวที กับการดูคอนเสริต์ ผ่านทีวี ยังไงอย่างงั้นเลยหละ ทำให้นักวิ่งหลายๆท่านเลือกที่จะเดินทางไปวิ่งในงานวิ่งมากกว่าการวิ่งในรูปแบบ Virtual Run นั่นเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าการวิ่งในรูปแบบ เวอร์ช่วลรัน ไม่ได้มีข้อดีนะ มันมีข้อดีอยู่ที่ว่าเป็นแรงกระตุ้นให้กับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายได้ เนื่องจากจะมีของรางวัลพิเศษๆรออยู่หลังจากที่วิ่งครบตามที่กำหนดนั่นเอง
การวิ่ง Virtual Run โกงได้ไหม?
สำหรับคนไทยแล้ว การโกงเป็นเรื่องปกติ การวิ่ง Virtual Run ก็เช่นเดียวกัน สามารถให้เพื่อนที่ชอบวิ่งออกกำลังเป็นประจำ save รูปภาพระยะการวิ่งที่เก็บได้จากแอพ หรือ smart watch แล้วคนที่ลงทะเบียนวิ่ง Virtual Run ทำทีว่าตัวเองเป็นคนวิ่งเพื่อรับรางวัลก็สามารถทำได้ แต่ก็มีคำถามอีกว่า “จะทำไปทำไม” ทำไปเพื่อรับของรางวัลอย่างเดียวเองหรอ? ก็เหมือนเอาเงินไปซื้อของรางวัลอะแหละ เป้าหมายจริงๆของ Virtual Run ก็คือการเชิญชวนให้คนมาออกกำลังด้วยการวิ่ง หรือ หาแรงกระตุ้นในการวิ่ง เท่านั่นเอง
