Friday, April 19, 2024
Homeข่าวสารค่าเงินบาทแข็งสุดในรอบ 6 ปี ถึงเวลาไปเที่ยวแล้วหละ

ค่าเงินบาทแข็งสุดในรอบ 6 ปี ถึงเวลาไปเที่ยวแล้วหละ

ได้เวลาบอกกับตัวเองได้แล้ว ว่าให้ไปเที่ยว เพราะว่าตอนนี้เที่ยวคุ้มมาก

หลังจากที่ค่าเงินบาทของไทยแตะระดับแข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปี และ การแข็งค่าของเงินบาทในครั้งนี้ ยังแข็งขึ้นทามกลางแรงหนุนจากสถานะซื้อหุ้น และ พันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ และ ประกอบกับเงินดอลลาร์ และ เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่อ่อนแอลงจากพิษสงครามการค้าระหว่างประเทศจีน แถมยังเกี่ยวกับโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด เข้าไปอีก ทำให้ตอนนี้การส่งออกของประเทศไทย และ การธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ถึงมากที่สุด จากที่เราได้เห็นข่าวที่ออกมาเป็นระยะ แถมยังแข็งอย่างต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์ เพราะเงินบาทถูกมองว่าเป็น Safe-Haven แทนที่ดอลลาร์ และ เยน ทำให้บัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง ทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ ได้มีหลักการควบคุมกำกับ และ ดูแลให้ตลาดเงินมีเสถียรภาพเท่านั้น โดยไม่ใช้การแทรกแซงหรือ กำหนดทิศทางของค่าเงินบาท

ช่วงนี้ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศ หรือ กำลังจองตั๋วสำหรับเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในต่างประเทศ คงจะยิ้มกันเป็นแถบๆเลยเนื่องจากว่า สามารถซื้อตั๋วได้ในราคาที่ถูกลงกว่าเมื่อก่อนเยอะมากๆ เหมือนกับได้รับส่วนลดเพิ่มเติมเข้าไปอีก เนื่องจากว่าค่าเงินบาทแข็งค่าแบบต่อเนื่องสุดๆเป็นประวัติการณ์เลยก็ว่าได้จะหลุด 30 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ ไปแล้วเมื่ออาทิตย์ทีแล้ว และ กลับมาดีดตัวดีขึ้นในต้นอาทิตย์นี้ เหตุผลที่ทำให้ค่าเงินค่ากลับมาอ่อนค่าขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ทางประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา (โดนัลด์ ทรัมป์) ได้มีการเดินทางไปเจรจากับประเทศจีน และ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะหัวหรือก้อย ก็น่าจะเห็นได้จากค่าเงินบาทในอาทิตย์นี้ ที่อ่อนค่ามากขึ้น หลายคนสงสัยกันว่า การที่อเมริกาบินไปคุยกับจีน แล้วทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง จริงรึเปล่า แล้วทำไมที่ผ่านมาค่าเงินบาทขึ้นแข็งค่าแบบหนักมาก จากที่เราเห็นข่าวที่มีกระแสแรงมากๆ ในเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่า กระทบการส่งออกของประเทศไทย มีเสียงเรียกร้อง และ กดดันให้แบงก์ชาติออกมาดูแลค่าเงิน บางแรกถึงกับออกมาบอกว่าขาดทุนทุกวัน ส่งออกไม่ได้ แต่ความเป็นจริงแล้ว ภาวะการเงินในตลาดโลกตอนนี้ผันผวนค่อนข้างเยอะมากๆ แถมความมั่นคงยังไม่ค่อยจะมีอีกด้วย ทำให้เราสามารถดูได้ง่ายๆเลยว่า ธนาคารกลางของแต่ละประเทศ มีทิศทางในการดำเนินนโยบายการเงินที่แตกต่างกันออกไป บางประเทศขึ้นดอกเบี้ย บางประเทศก็ให้ลดดอกเบี้ย ซึ่งนโยบายของแต่ละประเทศแตกต่างกัน ทำให้ค่าเงินมันก็เลยผันผวนนั่นเอง วิ่งไปวิ่งมาจนเราตาลายเลยทีเดียว นักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะลดความเสี่ยงด้วยการลงไปปรับพอร์ต ปรับสัดส่วนการลงทุน ลดพวกที่มีความเสี่ยงสูงๆออก ไปถือครองพวกที่ปลอดภัย

การตัดความเสี่ยงออกนั้นภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Risk-Off ยกตัวอย่างเช่น เทขายหุ้นแล้วไปลงทุนกับทองนั่นเอง อย่างที่เราเห็นกันตอนนี้ทองราคาขึ้น ซึ่งทองคำเป็นสินทรัพย์ของสกุลเงินที่มันปลอดภัยเช่น Bond ระยะสั้นของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง หรือจะเป็นการถือครองดอลลาร์สหรัฐไปเลย แต่ครั้งนี้ไม่ปกติเหมือนทุกๆครั้ง เนื่องจากว่ามันมีตัวที่เป็นปัญหา ที่มีความเสี่ยงนั่นก็คือ ค่าเงินดอลลาร์นั่นเอง ทำให้นักลงทุนหาแหล่ง Safe-Haven แหล่งใหม่นั่นเอง แล้วกรรมก็ตกมาเป็นของประเทศไทยเรานั่นเอง Safe-Heaven แปลง่ายก็คือแหล่งพักเงินนั่นเอง

ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ สำหรับคนไทยที่วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ เนื่องจากค่าเงินบาทจะแข็งค่าเยอะมากที่สุดในรอบ 6 ปีแล้ว เวลาจะจะจองโรงแรง หรือ ทัวร์แบบ 1 วันตอนนี้ จองได้ในราคาที่ถูกมากๆ และ ที่สำคัญเวลาเราเดินทางไปแลกเงินเป็นสกุลเงินอื่นๆ ถ้าแลกเยอะๆเราก็จะยิ่งได้กำไรนั่นเอง

 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -แจกส่วนลดลูกค้าใหม่ Makro Pro สมัครบัตร UOB Privi Miles รับ 7,500 คะแนน สมัครบัตร UOB Lady’s Card สมัครบัตร UOB Lady’s Card สมัครบัตร AMEX รับ 150,000 คะแนน สมัครบัตร AMEX สมัครบัตร KTC สมัครบัตร KTC

Most Popular

Recent Comments