เที่ยวคิวชู ง่ายๆด้วยบัตร JR Kyushu Rail Pass จบคุ้มในบัตรเดียว
ถ้าจะพูดถึงตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เชื่อได้เลยว่าหลายๆคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเกาะคิวชูแน่นอน ที่นี่นอกจากจะเป็นทางตอนใต้สุดของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งไฟอีกด้วย เพราะว่าภูมิประเทศของที่ตั้งอยู่บนเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงเกี่ยวกับภูเขาไฟที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือ ว่ายังไม่ดับนั่นเอง ทำให้เกาะคิวชู ขึ้อชื่อมากๆในเรื่องบ่อน้ำพุร้อนจากธรรมชาติ ใครที่เดินทางไปเที่ยวที่เกาะคิวชู คุณจะพลาดไม่ได้เลย ที่จะวางแผนไปแช่บ่อน้ำพุร้อน หรือ ออนเซ็น นั่นเอง สำหรับการเดินทางเที่ยวทั่วเกาะคิวชู นั้นสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการซื้อบัตร JR Kyushu Rail Pass ซึ่งมีให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน สามารถดูรายละเอียดได้ด้านล่าง
- บัตร JR South Kyushu Pass (เฉพาะตอนใต้ของเกาะคิวชู) แบบ 3 วัน
- บัตร JR North Kyushu Pass (เฉพาะทางตอนเหนือของเกาะคิวชู) แบบ 5 วัน
- บัตร JR North Kyushu Pass (เฉพาะทางตอนเหนือของเกาะคิวชู) แบบ 3 วัน
- บัตร JR Kyushu Pass ทุกพื้นที่ของเกาะคิวชู แบบ 5 วัน
- บัตร JR Kyushu Pass ทุกพื้นที่ของเกาะคิวชู แบบ 3 วัน
บัตรโดยสาร JR Pass ภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น นั่นก็คือ JR Kyushu Pass นั่นเอง เป็นบัตรที่จะทำให้คุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นได้แบบไม่จำกัด บริษัทรถไฟทางตอนใต้ของญี่ปุ่นก็คือ Sanya Shinkansen นั่นเอง จะให้บริการวิ่งระหว่างเมือง Hakata และ เมือง Kokura
คำถามที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะถามกันเกี่ยวกับ JR Kyushu Rail Pass
- บัตร JR Kyushu Rail Pass สามารถใช้นั่งอะไรได้บ้าง แล้ว ครอบคลุมอะไรบ้าง
- สามารถใช้นั่งรถไฟท้องถิ่ง ภายในพื้นที่ที่ระบุเอาไว้
- สามารถใช้นั่งที่นั่งที่จองเอาไว้แล้ว รวมไปถึงที่นั่งที่ยังไม่ได้จอง บนรถไฟด่วนพิเศษ หรือ Limited Express ภายในพื้นที่ที่กำหนด
- ที่นั่งที่ทำการจอง รวมไปถึงที่นั่งที่ยังไม่ได้จอง สำหรับรถไฟชินคันเซ็น เช่น Mizuho, Sakura และ Tsubame ภายในพื้นที่ที่ระบุเอาไว้
JR Kyushu Rail Pass ไม่สามารถใช้กับบริการดังต่อไปนี้
- ที่นั่งสำหรับตู้ Green Car บนรถไฟชินคันเซ็น (มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
- ไม่สามารถใช้นั่งรถบัส JR Kyushu และ รถบัส B&S Miyazaki
- ไม่สามารถใช้นั่งรถไฟ ชินคันเซ็นระหว่างเมือง Hakata และ Kokura ได้
การสำรองที่นั่ง และ ไม่สำรองที่นั่ง แตกต่างกันยังไง?
สำหรับการนั่งรถไฟในประเทศญี่ปุ่นนั้น มีอยู่ 2 แบบ ด้วยกันแบบแรกก็คือ การสำรองที่นั่ง ก่อนที่จะเดินทาง เพราะว่ารถไฟบางเส้นทาง นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ จำเป็นจะต้องทำการสำรองที่นั่ง ถึงแม้ว่าคุณจะซื้อบัตรโดยสารไปแล้วก็ตาม แต่สำหรับรถไฟบางเส้นทาง เราก็ไม่จำเป็นต้องสำรองที่นั่ง สำหรับบัตร JR Kyushu Rail Pass นั้นคุณสามารถใช้สำรองที่นั่ง ได้สูงสุดถึง 10 ครั้งเลยทีเดียว สำหรับบัตรโดยสารประเภท 3 วัน และ สามารถใช้จองได้สูงสุด 16 ครั้ง สำหรับบัตรโดยสารแบบ 5 วัน ถ้าคุณมีความจำเป็นจะต้องสำรองที่นั่งเพิ่มเติม เกิน 10 ครั้ง จะมีค่าใช้ธรรมเนียมเพิ่มเติม
การสำรองที่นั่ง สามารถทำได้เฉพาะภายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น คุณศามารถสำรองที่นั่งได้ที่สถานีรถไฟ JR ได้ทุกสถานี หรือที่ศูนย์ Travel Centra ที่เมืองคิวชู หรือจะทำการสำรองที่นั่งผ่านทางออนไลน์ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน หลังจากที่ทำการซื้อบัตรโดยสารเรียบร้อยแล้ว การจองที่นั่ง หรือ สำรองที่นั่งผ่านทางออนไลน์ จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 1,000 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 500 เยน สำหรับเด็ก
สำหรับคนไทยคนไหนที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวที่เกาะคิวชู อย่างแรกๆเลยที่คุณจะต้องทำหลังจากที่ซื้อพวกตั๋วเครื่องบิน และ จองที่พักเสร็จเรียบร้อยแล้วนั่นก็คือ บัตรโดยสารรถไฟ JR Kyushu Rail Pass นั่นเอง บัตรนี้บอกได้เลยว่าคุ้มมากๆ ถ้าคุณเลือกซื้อบัตรผ่านทางเว็บไซต์ Klook เนื่องจากราคาที่ถูกกว่า แถมยังมีโปรโมชั่น ส่วนลดออกมาเรื่อยๆอีกด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวบนเกาะคิวชู เพราะว่ามันสามารถได้เดินทางท่องเที่ยว ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆบนเกาะคิวชูได้แบบครบสุดๆ สำหรับใครที่ต้องการซื้อบัตรใบนี้ สามารถเช็ครายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับการซื้อผ่านทางออนไลน์ ได้ด้านล่าง
บทความที่เกี่ยวข้อง
ซื้อบัตร JR Kyushu Pass แบบไหนคุ้มที่สุด
รวบรวมข้อมูล JR Pass แต่ละภูมิภาค ในประเทศญี่ปุ่น
7 สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะ Kyushu ประเทศญี่ปุ่น ที่คุณต้องไม่พลาด