หลากหลายเหตุผลที่ว่า ทำไมต้องเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงนี้
เดือน 7 และ เดือน 8 ของทุกปีในประเทศญี่ปุ่น จะถูกจัดว่าเป็นฤดูร้อน เป็นช่วงที่หลายๆคนไม่คิดที่จะเดิตทางไปเที่ยว เนื่องจากเป็นหน้าร้อนของประเทศญี่ปุ่น ไปเที่ยวทั้งทีก็อยากจะเที่ยวในฤดูที่มันหนาวๆ เพราะว่าประเทศไทยร้อนอยู่แล้ว ร้อนทั้งปีทั้งชาติ นักท่องเที่ยวคนไทยก็เลยอยากจะไปเที่ยวประเทศที่มีสภาพอากาศที่แตกต่างออกไป เลยทำให้นักท่องเที่ยวหลายๆคนลืมประเทศญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อนไปเลย แต่หารู้ไม่ว่า การเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกรกฎาคม และ เดือนสิงหาคม นั้นเป็นอะไรที่ฟินมากๆ เนื่องจากว่า ทุกอย่างราคาถูกหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นราคาตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และ ที่สำคัญร้านค้าต่างๆ จะจัดงานเซลในช่วงนี้อีกด้วย ในฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น มันมีอะไรที่น่าสนใจ และ น่าประทับใจแตกต่างจากช่วงหน้าหนาวของญี่ปุ่นเหมือนกันนะ มีอะไรที่ซ่อนอยู่อีกมากมายในฤดูร้อนนี้
Summer in Japan
การเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวคนไทยหลายๆคน ต่างก็คิดว่าจะเดินทางไปเที่ยวเพราะว่าอยากจะเจอหิมะ หรือ ว่าจะเป็นการเดินทางไปเที่ยวในช่วงดอกซารุระบาน หรือ ช่วยใบไม่เปลี่ยนสีซะมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นแล้ว การเดินทางไปในฤดูอื่นๆ น่าสนใจกว่าเยอะเลย ต้องบอกตรงนี้เลยว่า อากาศในฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นนั้น ไม่ต่างจากเมืองไทยเท่าไหร่ อาจจะร้อนน้อยกว่าหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่น เป็นตัวเลือกอันดับท้ายๆของนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว ถ้าใครคุ้นเคยกับวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นมาบ้างแลว้ คงจะพอทราบดีว่า การขายของของคนญี่ปุ่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ธรรมดาขนาดไหน ประเทศญี่ปุ่นก็ทำให้มันดูมีค่ามีราคาขึ้นมาได้ อย่างเช่นขนม ถ้าเป็นในประเทศไทยแพ็คเกจก็จะธรรมดาๆ พอให้ใส่ขนมได้เท่านั้น แตกต่างจากขนมในประเทศญี่ปุ่น จะมีกระบวนการในการจัดทำแพ็กเกจที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นมาทันที ใส่กล่องบ้าง ใส่กระดาษแก้วบ้าง เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้มหาศาลเลยทีเดียว ทำให้สินค้าที่ไม่ว่าจะธรรมดาขนาดไหนก็ทำให้มันดูมีค่า มีราคาขึ้นมาทันที ญี่ปุ่นเขาจะมีลูกเล่น ในการเรียกลูกค้ามาให้ซื้อสินค้าของเขาได้ดีมากๆ
ฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นช่วง Low Season ของการท่องเที่ยวในประเทศเขาเลย ทำให้ในช่วงฤดูร้อนนี้ทางประเทศญี่ปุ่นเขาจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อเรียกนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาเที่ยวยังประเทศเขา ซึ่งจะจัดกิจกรรมระหว่างเดือน กรกฎาคม ไปจนถึงเดือน สิงหาคมของทุกปี แต่ละวันของเดือนทั้ง 2 เดือนนี้ จะมีกิจกรรมอัดแน่นมากๆ ยกตัวอย่างเช่น เทศกาลดอกไม้ไฟ, เทศกาลดนตรี, และ กิจกรรมแบบเฉพาะทาง ต่างๆ ทำให้ฤดูร้อนของญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งฤดูที่น่าเดินทางไปเที่ยวมากๆ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างสำหรับสายช้อปก็คือ ช่วงนี้ของเซลเยอะมากอะไรก็ถูกไปหมด ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูร้อนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าของถูกมาก สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนนี้อยู่ เราไปเช็คสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ ที่ไม่ควรจะพลาดในช่วงฤดูร้อนนี้กันเถอะ
5 สถานที่ท่องเที่ยวฤดูร้อน ในประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องไม่พลาด
1. เทศกาลฤดูร้อนที่เมืองซัปโปโร (Sapporo Summer Festival) – สำหรับคนไทยที่มีโอกาสได้เดินทางไปตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ที่เมืองซัปโปโร ในช่วงฤดูร้อน จะพลาดไม่ได้เลยกับเทศกาลฤดูร้อนในเมืองซัปโปโร ซึ่งเทศกาลนี้จะถูกจุดขึ้นในบริเวณสวนโอโริ ใจกลางเมืองซัปโปโรเลยแหละ จัดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคม ความพิเศษเทศกาลนี้ก็คือ จะมีร้านขายของมากมาย มีเกมสนุกๆให้เราได้เลย เป็นเกมที่จะจัดในเทศกาลพิเศษๆโดยเฉพาะ และ ลานเต้นรำบงโอโริ แบบดั้งเดิม และไฮไลท์ของมันก็คือ การจุดอกไม้ไฟ ลานเบียร์ ทามกลางบรรยากาศของสวนกลางเมือง
2. ล่องเรือที่นากาโทโระ อยู่ที่จังหวัด ไซตามะ ถ้าพูดถึงไซตามะ หลายๆคนก็จะไปนึกถึงการ์ตูนอนิเมะ เรื่อง One Punch Man แน่นอน ซึ่งตอนนี้ ดำเนินเรื่องมาถึง Season 2 แล้วนะ กำลังรอ Season 3 อย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว สำหรับกิจกรรมสนุกๆ ในจังหวัดไซตามะ ก็คือการได้ล่องเรือในฤดูดู ที่ไม่ใช่การล่องเรือแบบธรรมดาๆบ้านๆ ทั่วไป แต่เป็นการล่องเรือพร้อมกับความตื่นเต้น เพราะว่าบางช่วงบางตอนของการล่องเรือนั้นจะเจอกับน้ำที่ไหลเชี่ยวให้เราได้ตื่นเต้นกัน การล่องเรือที่นากาโทโระ นั้นมีแพ็คเกจให้เลือกด้วยนะ มีถึง 3 แพ็คเกจด้วยกัน ราคาจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความยาวของการล่องเรือด้วย หากใครอยากจะใช้ชีวิต Slow Life การล่องเรือในฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น ที่นากาโทโนโระ จังหวัดไซตามะ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวเลือกนึงเลย
3. ชมหิ่งห้อยที่หมู่บ้านหิ่งห้อย ซึกิโยโนะ จังหวัด กุนมะ (Tsukiyono Firefly Village, Gunma)- อีกหนึ่งเสน่ห์ของการเดินทางไปเที่ยว ที่จังหวัดกุนมะ ในฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น ก็คือการเดินทางไปชมหิ่งห้อยในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง เป็นการชมหิ่งห้อยยามค่ำคืนที่สวยสดงดงาม และ หาประสบกาณ์แบบนี้ในฤดูไหนไม่ได้เลยนอกจากฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าการชมหิ่งห้อยในประเทศญี่ปุ่นนั้น จะมีจุดที่สามารชมได้ทั่วประเทศ แต่จุดที่หลายๆคนแนะนำให้ไปชมจะเป็นที่หมู่บ้านหิ่งห้อยซึกิโยโนะ ที่จังหวัดกุนมะ นั่นเอง เดินทางง่ายแถมยังสามารถขึ้นรถไฟชินคันเซ็นยิงตรงจากโตเกียว ด้วยการใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง สำหรับหิ่งห้อยในประเทศญี่ปุ่นนั้น อยากจะอธิบายเป็นความรู้กันหน่อย ว่าสามารถชมได้ในช่วง เดือนมิถุนายน ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ของทุกปี เท่านั้น สามารถพบได้ตั้งแต่ 2 ทุ่มขึ้นไป ตามสถานที่ต่างๆ การชมหิ่งห้อยมีข้อกำหนดอยู่ว่าห้ามใช้แฟลชในการถ่ายรูป สำหรับการไปชมหิ่งห้อยที่หมู่บ้านแห่งนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยนะ ชมฟรีตลอดงาน
4. หมู่บ้านแห่งดวงดาวอาจิ จังหวัด นากาโนะ (Star Village Achi, Nagano) ช่วงฤดูร้อนแบบนี้สิ่งที่จะพลาดไม่ได้อีกอย่างนึงก็คือ การเดินทางไปชมดวงดาวบนท้องฟ้า ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในฤดูร้อน ที่หมู่บ้าน Star Village Achi ซึ่งหมู่บ้านนี้ถูกจัดอันดับว่าเป็นสถานที่ดูดาวที่ดีที่สุด ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีแสงไฟ และ สิ่งรบกวนจากตัวเมืองน้อยมากๆ ทำให้คุณมีโอกาสที่จะได้มอง ดวงดาวบนท้องฟ้าได้แบบชัดเจนสุดๆ ใครที่คิดจะเดินทางไปเที่ยวที่หมู่บ้านนี้ แนะนำให้ซื้อทัวร์ไป ชื่อทัวร์นี้จะใช้ชื่อว่า Night Tour ราคาตกคนละ 2,000 เยน
5. หาดเรืองแสง ที่จังหวัด โอกายามะ เป็นไฮไลท์ สำหรับการเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อนเลย เป็นปรากฎการณ์ที่หาชมได้ยากมากๆ แม้ในประเทศญี่ปุ่นเองก็ตาม ขึ้นอยู่กับดวงล้วนๆเลย เกิดขึ้นเฉพาะฤดูร้อนเท่านั้นด้วย เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิตที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “อุมิโฮตารุ” เป็นหิ่งห้อยที่อยู่ในทะเล หรือที่เราเรียกกันว่าแพลก์ตอนเรืองแสงนั่นเอง และ ก็ยังมีกุ้งบางชนิดที่เรืองแสงด้วย เป็นปรากฎการณ์ที่สวยงามมากๆ ใช้ดวงด้วยว่าจะได้เห็นรึเปล่า ปรากฎการณ์นี้ จะเกิดขึ้นจากพวกแพลงตอนเรืองแสง ถูกพัดเข้ามาเกยฝั่ง สามารถชมได้ตั้งแต่เวลา 3 ทุ่มเป็นต้นไป และ ไม่เกิดขึ้นทุกวัน คาดเดาไม่ได้ด้วย คนญี่ปุ่นแนะนำว่าให้เดินทางไปที่หาด Weeping Stone เพราะว่ามีโอกาสได้เห็นปรากฎการณ์นี้มากที่สุด
สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ไม่ว่ากิจกรรมที่คุณกำลังเล็ง หรือ ว่ากำลังวางแผนว่าจะเดินทางไปทำในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปเที่ยวสวนสนุกต่างๆ หรือ ชมธรรมชาติ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กิจกรรมเหล่านี้บางที่ บางแห่ง คุณจำเป็นต้องซื้อบัตรเพื่อไปเข้าชม ยกตัวอย่างเช่นซื้อบัตรโดยสาร JR Pass หรือ บัตรเข้าสวนสนุกเป็นต้น ใครที่จะซื้อบัตรเหล่านี้ แนะนำให้เลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถืออย่างเว็บไซต์ Klook เป็นต้น เพราะว่าการซื้อบัตรผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากจะช่วยคุณประหยัดเงินในกระเป๋า เพราะว่ามีราคาที่ถูกกว่าการไปซื้อในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังช่วยคุณประหยัดเวลาได้เยอะมากๆอีกด้วย
