ปรับตัวให้ชินกับการ ทำงานที่บ้าน ในช่วงวิกฤตไวรัสระบาด
หลายๆออฟฟิศในกรุงทเทพฯ ตอนนี้มีการปรับตัวกันแบบเห็นได้ชัดเจนเลย คือมีมาตรการออกมาให้พนักงาน สามารถเลือกทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home ได้ เป็นมาตรการที่ตอบสนองกับทางภาครัฐบาล เพื่อลดการสัมผส และ แพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ที่สถานการณ์ของประเทศไทย ตอนนี้กำลังน่าเป็นห่วงมากๆ มีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 33% ใน 1 วัน สำหรับพนักงานหลายๆคน ที่บริษัทอนุญาตให้เราสามารถเลือกทำงานที่บ้านได้ หลายๆคนอาจจะดีใจ เนื่องจากไม่ต้องออกไปรับความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ เมื่อเวลาเราเดินทางไปทำงานที่บริษัทนั่นเอง แถมยังไม่ต้องออกไปเจอกับ สภาพรถติดของทุกๆวันอีกด้วย เหมือนกับว่าเราได้ย้อนเวลาไปตอนปิดเทอมสมัยเรียนอีกครั้ง เพราะว่าตอนนี้บนท้องถนน รถโล่งมากๆ เนื่องจากหลายๆร้านค้า หลายๆบริษัทปิด ให้พนักงานทำงานที่บ้านนั่นเอง คนที่บริษัทเปิดโอกาสให้คุณได้ทำงานที่บ้าน คุณต้องมีวินัยในการทำงานในระดับนึงเลย อย่ามัวแต่ นั่งดูซีรี่ย์ผ่าน Netflix, กินขนม, อัพเดทข่าวใน Social จนลืมทำงานไปหละ ไม่งั้นตายแน่ๆ KPI ไม่ถึงเดี๋ยวจะมีปัญหากันนะจ๊ะ เราไปเช็คกันดีว่า ว่าการ WFH หรือ Work from home ยังไงให้มันมีประสิทธิภาพ ทำงานอยู่ที่บ้าน ก็ได้งานเหมือนกับอยู่ Office
- สร้างบรรยากาศ การทำงานที่บ้าน – แนะนำเลย การทำงานที่บ้าน ต้องทำให้บรรยากาศมันเหมือนกับการทำงานที่ Office สำหรับคนที่อยู่บ้านคนเดียว หรือ อยู่คอนโดคนเดียวอาจจะสบายหน่อย แต่ถ้าเปรียบเทียบกับคนที่เป็นครอบครัวใหญ่ๆ มีเด็ก การทำงานที่บ้านอาจจะไม่ใช่เรื่องที่มันง่ายเลย เพราะฉะนั้นการสร้างบรรยากาศ การทำงานที่บ้าน ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ แนะนำให้หามุมเหมาะๆ แล้วมีโต๊ะ หรือ เก้าอี้ที่มันนั่งแล้วสบาย เอาของที่ไม่จำเป็นบนโต๊ะออกไปให้หมด แล้วที่สำคัญ ตรวจเช็คผนัง หรือ กำแพงด้านหลังของคุณให้ดีๆ เผื่อว่าเจ้านายต้องการ VDO Conference กับคุณ จะได้ไม่อายด้านหลัง อีกอย่างที่ต้องทำเลยก็คือ ให้คุณคุยกับคนที่บ้าน ว่านี่เป็นเวลาทำงานของเรานะ การจัดโซนที่นั่ง สำหรับ Work from Home มันช่วยให้งานเราเสร็จได้เร็วมากขึ้นจริงๆนะ ดีกว่านั่งๆนอนๆ อยู่บนโซฟาเยอะมากๆ
- กำหนดเวลาการทำงานที่ชัดเจน – ส่วนใหญ่แล้ว บริษัทจะมีมาตรการออกมาบอก สำหรับพนังงานที่ทำงานอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เราไม่ควรทำงานแบบว่า ตื่นตอนไหนทำงานตอนนั้น ควรจะทำงานให้เป็นเวลา ส่วนใหญ่แล้วบริษัทจะให้เริ่มทำงานเหมือนกับการเดินทางไปทำงานที่บริษัทเลย แต่ถ้าบริษัทไหนไม่มี แนะนำให้เรากำหนดเวลาเริ่มทำงาน เวลาพัก และ เวลาเลิกงาน ให้ชัดเจนเลย หลายๆบริษัทมักจะมีการประชุมทีมในช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็น เพื่ออัพเดทสถานการณ์ และ งานของเพื่อนๆในทีมทุกวัน
- ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วง – ในปัจจุบัน หลายๆบริษัทใหญ่ๆ เลือกให้พนักงาน สามารถ Work from Home ได้แล้ว ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ มักจะใช้ตัวช่วยอย่างเทคโนโลยี ที่สามารถคุยทางไกลได้อย่าง Skype, Google Hangout, Zoom Hangout เป็นต้น เทคโนโลยีเหล่านี้ จะเป็นตัวช่วยให้การสื่อสารของคุณง่ายมากยิ่งขึ้น เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน และ สามารถสั่งงาน บวกกับการประสานงาน ในช่วงที่เรา Work from Home ได้แบบชัดเจนตรงประเด็น แถมยังทำให้เป้าหมาย หรือ KPI ในแต่ละวันตรงเป้าอีกด้วย
- รายงานความคืบหน้า – อีกหนึ่งปัจจัย ที่หัวหน้างาน สามารถคุมลูกน้องอยู่ก็คือ การรายงานความคืบหน้า ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวานทำอะไรบ้าง, วันนี้จะทำอะไรบ้าง, มีปัญหาตรงไหน และ นี่คือ 3 คำ หลักๆที่บริษัททุกบริษัท ควรจะนำกลับไปปรับใช้ ในช่วง Work from Home เพื่อให้ได้ข้อมูล ความคืบหน้า ของงาน หรือ Project ที่คุณกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำอยู่ แนะนำให้แบ่งการประชุม ทุกเช้าเป็นเวลาไม่เกิน 10 นาที ให้ทุกคนในทีมได้รายงานความคืบหน้า ของตัวเอง จากคำถามหลัก 3 คำถามดังกล่าว และ อาจจะเติมด้วยรายงานสรุปความคืบหน้าเข้าไปด้วยก็ได้
เคล็ดลับของการทำงานที่บ้าน นั้นเราสามารถนำไปปรับใช้ได้กับองค์กรของเรา เพื่อที่จะทำให้การทำงานที่บ้านของเรา มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้เหมือนกับการเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศ ถึงแม้ว่าตอนนี้สถานการณ์ในบ้านเรา จะทำให้หลายๆคนวิตกกังวล ในเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 หลายๆคนต้องยกเลิกทริปเที่ยวสงกรานต์ หรือ ทริปเที่ยวต่างประเทศ ทำให้ไม่ค่อยมีอารมณ์จะมานั่งทำงานสักเท่าไหร่ ยังไงการทำงานแบบ Work from Home น่าจะช่วยให้การใช้ชีวิตของคุณเครียดน้อยลงบ้างแหละ เพราะว่าเราไม่ต้องออกไปเสี่ยงไปการติดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักมากในประเทศไทยตอนนี้
