คู่มือ Eurail Pass ฉบับมือใหม่อยากเที่ยว ยุโรป
เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ล่าสุด กับการเดินทางไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวในทวีปยุโรปด้วยตั๋วรถไฟ Eurail Pass แล้วเดินทางไปยังเมืองต่างๆแบบคุ้มสุดๆ หากคุณยังไม่เคยใช้บัตรเดินทางอันนี้มาก่อนเลย ต้องเช็คเลยว่ามันดียังไง แล้ว คุ้มยังไงบ้าง
- ประหยัดกว่า กับค่าเดินทางที่ถูกลงเห็นๆ
- เดินทางด้วยรถไฟ คุณจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทวีปยุโรป ระหว่างทาง
- สะดวกสบาย พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
- ไม่มีค่าขนสัมภาระเพิ่มเติม
ก่อนที่จะใช้ Eurail Pass ต้องวางแผนก่อนว่าคุณจะเดินทางไปกี่ประเทศ หลังจากที่รู้ว่าจะเดินทางไปเที่ยวกี่ประเทศแล้ว หลังจากนั้นให้คุณเช็คว่าตั๋วแบบไหนที่จะคุ้มที่สุด สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในทวีปยุโรปของคุณ
- Eurail Global Pass ถ้าทริปท่องเที่ยวของคุณ เป็นทริปที่เที่ยวรอบทวีปยุโรป ตั๋วนี้ตอบโจทย์แน่นอน เพราะว่าสามารถใช้เดินทางได้ครอบคลุมถึง 31 ประเทศทั่วทวีปยุโรป
- Point-to-Point Ticket ถ้าทริปของคุณเดินทางไปเที่ยว 2-3 ประเทศเท่านั้น บัตรประเภทนี้ สามารถประหยัดเงินได้มากกว่า
- ตั๋วรถไฟของประเทศนั้นๆ บัตรประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่เดินทางไปเที่ยวประเทศใดประเทศหนึ่ง และ ไม่มีแผนจะเดินทางข้ามประเทศ เช่นถ้าคุณจะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์อย่างเดียว แนะนำให้ซื้อบัตร Swiss Pass แทน Eurail Pass เนื่องจากราคาถูกกว่า และ คุ้มกว่า เพราะว่ามีส่วนลดอื่นๆให้ด้วย
เวลาซื้อตั๋ว แนะนำให้ซื้อแบบยืดหยุ่น (Flexible) หรือ แบบ ใช้ติดต่อกัน (Consecutive)
- หลังจากที่เลือกชนิดของ Pass เสร็จแล้วหลังจากนั้นคุณก็ต้องมาเลือกอีกว่าจะซื้อแบบ ยืดหยุ่น หรือ ใช้แบบติดต่อกันดี ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจะเดินทางไปเที่ยวนอกตัวเมือง 3-4 วัน แนะนำให้ตั๋ว Rail Pass ซื้อแบบ ยืดหยุ่นจะดีกว่า เหตุผลก็เพระาว่า มันสามารถใช้เดินทางได้แบบไม่จำกัดภายในนั่นเอง นอกจากนี้ยังใช้ได้แบบไม่จำกัดเวลาอีกด้วย มีหลายวันให้เลือกซื้อเช่น 3/5/7/10/15 วันภายในเดือนที่คุณเลือกเองเริ่มจากวันแรกที่คุณใช้บัตรเดินทาง
- แต่ถ้าหากว่าคุณอยากจะข้ามเมืองไป ข้ามเมืองมา และ มีระยะเวลาเที่ยวเพียงแค่วันเดียว หรือ 2 วันเท่านั้น ตั๋วที่ใช้แบบติดต่อกันจะเหมาะกับคุณมากกว่า
เลือกใช้ตั๋วแบบวันไหนก็ได้ หรือ จะเป็นแบบระบุวันดีกว่า?
- ตั๋วแบบไม่จำกัดวัน มีความสะดวกสบายอยู่ที่มีความยืดหยุ่นในการเดินทาง แต่มีข้อเสียอยู่ที่ราคา เพราะว่ามันมีราคาแพงกว่าบัตรชนิด point-to-point
- ตั๋วแบบจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งแบบ ระบุวัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ถูกกว่า สำหรับคนที่กำหนดวันและเวลาเดินทางไปแล้ว ข้อเสียก็คือ ไม่สามารถคืนเงิน และ เปลี่ยนแปลงประเภทตั๋วได้
การสำรองที่นั่ง
การเดินทางด้วยรถไฟในทวีปยุโรปนั้น การสำรองที่นั่ง อาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม แตกต่างจากตั๋วรถไฟ JR Pass ของประเทศญี่ปุ่น ที่ไม่เสียเงินเพิ่มเติม ถ้าอยากจะจองที่นั่ง สำหรับรถไฟที่อาจจะเสียเงินเพิ่มถ้าหากจองที่นั่งดูได้ตามลิสด้านล่าง
- รถไฟความเร็วสูงภายในประเทศ
- รถไฟระหว่างประเทศ
- รถไฟข้ามคืน
- รถไฟชมวิว
