Wednesday, July 3, 2024
Homeท่องเที่ยวSwiss Travel Passรีวิวการเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยบัตร Swiss Travel Pass: ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด

รีวิวการเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยบัตร Swiss Travel Pass: ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด

รีวิวการเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยบัตร Swiss Pass

สวิตเซอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในประเทศที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยธรรมชาติที่หลากหลายทั้งภูเขาสูงตระหง่าน ทะเลสาบใสสะอาด และเมืองเล็กๆ ที่น่ารัก Swiss Travel Pass เป็นบัตรที่ช่วยให้การเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์เป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย ในบทความนี้ จะพาไปรีวิวการใช้ Swiss Travel Pass เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์

Swiss Travel Pass คืออะไร?

Swiss Travel Pass เป็นบัตรโดยสารที่ออกแบบมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้อย่างไม่จำกัดบนระบบขนส่งสาธารณะของสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถบัส หรือเรือ บัตรนี้มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต้องการใช้ โดยมีตั้งแต่ 3, 4, 8, และ 15 วัน

ข้อดีของการใช้ Swiss Travel Pass มีมากมาย ไม่เพียงแต่สามารถเดินทางได้ไม่จำกัด แต่ยังสามารถเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้ฟรีหรือในราคาลดพิเศษอีกด้วย

เริ่มต้นการเดินทาง: การซื้อและใช้งาน Swiss Travel Pass

การซื้อ Swiss Travel Pass สามารถทำได้ง่ายผ่านเว็บไซต์ของ Swiss Travel System หรือจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศต่างๆ เมื่อซื้อเสร็จแล้ว สามารถเลือกวันที่เริ่มใช้งานได้ตามต้องการ

เมื่อได้รับบัตร Swiss Travel Pass มาแล้ว การใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่แสดงบัตรนี้เมื่อขึ้นรถไฟ รถบัส หรือเรือโดยไม่ต้องซื้อตั๋วเพิ่มเติม สิ่งที่ดีอีกอย่างคือ Swiss Travel Pass มีรูปแบบดิจิทัลซึ่งสามารถแสดงผ่านสมาร์ทโฟนได้ สะดวกสบายและไม่ต้องกังวลว่าจะลืมบัตรที่บ้าน

วันแรก: ลูเซิร์น (Lucerne)

เริ่มต้นการเดินทางที่เมืองลูเซิร์น หนึ่งในเมืองที่สวยงามที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ลูเซิร์นตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูเซิร์นและล้อมรอบด้วยภูเขาสูง สถานที่แรกที่ต้องไปเยือนคือสะพานคาเปล (Kapellbrücke) สะพานไม้เก่าแก่ที่มีอายุกว่าร้อยปี หลังจากเดินเล่นรอบเมือง แนะนำให้ขึ้นรถไฟฟ้าไปยังยอดเขาพิลาตุส (Mount Pilatus) ซึ่งเป็นที่ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบและภูเขารอบๆ ได้อย่างเต็มตา

การเดินทางในวันแรกด้วย Swiss Travel Pass ช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการซื้อตั๋ว

วันที่สอง: อินเตอร์ลาเคน (Interlaken)

อินเตอร์ลาเคนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่ง คือทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบบรีนซ์ (Lake Brienz) เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเดินทางไปยังยอดเขายูงเฟรา (Jungfrau) โดยใช้ Swiss Travel Pass นั่งรถไฟสาย Jungfrau Railway ขึ้นไปถึงสถานี Jungfraujoch ที่ได้ชื่อว่าเป็น “Top of Europe” ด้วยความสูงกว่า 3,454 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ที่นี่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของธารน้ำแข็งอเลตซ์ (Aletsch Glacier) และเทือกเขาแอลป์ได้อย่างตระการตา การเดินทางไปยัง Jungfraujoch เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด และ Swiss Travel Pass ช่วยให้การเดินทางนี้สะดวกขึ้นมาก

วันที่สาม: ซูริค (Zurich)

ซูริคเป็นเมืองใหญ่ที่มีความหลากหลายทั้งทางวัฒนธรรมและความทันสมัย การเดินทางในซูริคด้วย Swiss Travel Pass เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะใช้รถไฟฟ้า รถราง หรือรถบัส สถานที่แรกที่แนะนำให้ไปเยือนคือย่านเมืองเก่า (Old Town) ซึ่งมีถนนแคบ ๆ และบ้านเรือนสมัยเก่าที่สวยงาม

อีกสถานที่ที่น่าสนใจคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะซูริค (Kunsthaus Zurich) ซึ่งมีคอลเล็กชันศิลปะที่ใหญ่และหลากหลาย การใช้ Swiss Travel Pass สามารถเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นี้ได้ฟรี

วันที่สี่: โลซาน (Lausanne)

โลซานเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) และมีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมและกีฬา การเดินทางในโลซานด้วย Swiss Travel Pass สะดวกสบายมาก สามารถนั่งรถไฟหรือรถบัสไปเยือนสถานที่ต่าง ๆ ได้

เริ่มต้นที่พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก (Olympic Museum) ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวและประวัติของกีฬาโอลิมปิก จากนั้นเดินเล่นริมทะเลสาบเจนีวา ชมวิวทะเลสาบและภูเขาที่งดงาม

วันที่ห้า: เจนีวา (Geneva)

เจนีวาเป็นเมืองใหญ่ที่มีความหลากหลายทั้งทางวัฒนธรรมและการเมือง เป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง การเดินทางในเจนีวาด้วย Swiss Travel Pass เป็นเรื่องง่าย และสามารถเข้าเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้ฟรี

หนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจคือพิพิธภัณฑ์แดงค์เซอรีเนีย (Red Cross and Red Crescent Museum) ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวของการก่อตั้งองค์กร และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั่วโลก อีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือทะเลสาบเจนีวา ซึ่งสามารถนั่งเรือชมวิวได้

วันที่หก: ซาร์แมท (Zermatt)

ซาร์แมทเป็นเมืองที่ไม่มีรถยนต์ เป็นที่ตั้งของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก การเดินทางไปยังซาร์แมทด้วย Swiss Travel Pass สามารถนั่งรถไฟไปได้โดยสะดวก

เมื่อถึงซาร์แมท แนะนำให้ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปยังยอดเขาโกเนอร์แกรท (Gornergrat) ซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ของแมทเทอร์ฮอร์นและเทือกเขาแอลป์ได้อย่างเต็มตา

วันที่เจ็ด: เบิร์น (Bern)

เบิร์นเป็นเมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์และมีความงดงามทางประวัติศาสตร์ การเดินทางในเบิร์นด้วย Swiss Travel Pass สามารถนั่งรถรางและรถบัสได้อย่างสะดวก

เริ่มต้นที่หอนาฬิกาโบราณ (Zytglogge) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง จากนั้นเดินเล่นในย่านเมืองเก่า ซึ่งเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ อีกสถานที่ที่น่าสนใจคือพิพิธภัณฑ์ไอน์สไตน์ (Einstein Museum) ซึ่งจัดแสดงชีวิตและผลงานของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

ประสบการณ์และข้อสรุป

การใช้ Swiss Travel Pass เพื่อการเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม บัตรนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ

สวิตเซอร์แลนด์มีความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าประทับใจ และการใช้ Swiss Travel Pass ทำให้สามารถสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการชมวิวทิวทัศน์ที่งดงาม การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ หรือการเดินเล่นในเมืองที่มีเสน่ห์ สำหรับใครที่กำลังหาซื้อบัตร Swiss Pass แบบคุ้มๆอยู่ แนะนำให้ซื้อบัตรผ่านทางออนไลน์ไปเลยเพราะว่าคุณจะได้รับความสะดวกสบาย ในการใช้บริการผ่านการ Scan QR Code เพื่อเข้าใช้บริการ แถมราคายังถูกกว่าไปซื้อหน้างานด้วย

RELATED ARTICLES
- Advertisment -แจกส่วนลดลูกค้าใหม่ Makro Pro สมัครบัตร UOB Privi Miles รับ 7,500 คะแนน สมัครบัตร UOB Lady’s Card สมัครบัตร UOB Lady’s Card สมัครบัตร AMEX รับ 150,000 คะแนน สมัครบัตร AMEX

Most Popular

Recent Comments