ที่ไหนที่ต้องไปโดนบ้างถ้ามีโอกาสได้ไปเยือนประเทศ Switzerland
สวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อมากๆ สำหรับวิวที่สวยสดงดงามเหมือนกับ หลุดออกมาจากภาพถ่ายเลยทีเดียว เป็นประเทศที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ที่งดงามสุดๆ ถือได้ว่าเป็นประเทศในฝันของคนไทยหลายๆคนเลยก็ว่าได้ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น มีวิวที่เป็นเนินเขา เยอะมากๆ ใครที่ชอบธรรมชาติในรูปแบบของภูเขา วิว แม่น้ำต่างๆ คุณจะพลาดไม่ได้เลยที่จะเลือกออกเดินทางไปสำรวจประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ สำหรับเขาที่ขึ้นชื่อมากที่สุดในประเทศนี้นั่นก็คือ เทือกเขาแอลป์ นั่นเอง เขานี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ตลอดเวลา ใครที่อยากจะไปเที่ยวประนี้นี้ให้ครบๆ แบบคุ้มๆ ต้องไม่พลาดที่จะซื้อบัตรโดยสารรถไฟที่มีชื่อว่า Swiss Rail Pass
บัตร Swiss Rail Pass ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
ถ้าจะพูดถึงบัตรนี้ ก็คือบัตรที่จะพาคุณออกไปสำรวจประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้แบบครบวงจร สามารถใช้บัตรนี้โดยสารรถไฟ รวมไปถึงเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ต้องเสียเงินเพิ่ม แต่ถ้าคุณมีบัตรนี้แล้ว คุณก็ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่อย่างใด บัตร Swiss Rail Pass สามารถใช้ขึ้นรถไฟ, รถบัส, และ เรือ ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ ก็เหมือนกับบัตร JR Pass ของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง เป็นบัตรที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องไปนั่งเสียเวลากับการซื้อบัตรโดยสารใหม่ทุกๆครั้งที่คุณต้องการโดยสาร สามารถใช้บัตรนี้ สแกนเข้าไปใช้บริการได้ทันที นอกจากจะเป็นบัตรพิเศษ ที่สามารถพาคุณไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้แล้วยังเป็นบัตร ที่ทำให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าเยอะมาก มาก อีกด้วย เนื่องจากเป็นบัตรแบบเหมาจ่าย ราคาเลยถูกกว่านั่นเอง
บัตร Swiss Rail Pass ยังเป็นบัตรที่มอบสิทธิพิเศษ ให้กับคุณในการซื้อบัตรโดยสารรถไฟ TGV Lyria ในราคาพิเศษอีกด้วย สำหรับเส้นทางในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ทั้งหมด นอกเหนือจากนี้ บัตรใบนี้ยังสามารถใช้เป็นส่วนลด สำหรับการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ และ นิทรรศการต่างๆกว่า 500 แห่งฟรีอีกด้วย คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
วิธีการซื้อบัตร Swiss Rail Pass สามารถซื้อได้ที่ไหน?
นักท่องเที่ยวชาวไทยถามเข้ามากันเยอะมากๆ ว่าจะซื้อบัตร Swiss Rail Pass ได้ที่ไหนบ้าง ต้องตอบตรงนี้เลยว่าสามารถหาซื้อได้ง่ายสุดๆ เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ Klook นั่นเอง เป็นเว็บไซต์ที่เด็ดในเรื่องบัตรท่องเที่ยว และ บัตรโดยสาร เพราะว่าจำหน่ายให้กับคนไทย ในราคาที่ถูกที่สุดในประเทศแล้วก็ว่าได้ สำหรับบัตร Swiss Rail Pass จะมีหลากหลายประเภทด้วยกัน สามารถดูได้ด้านล่าง
- บัตร Swiss Travel Pass E-Ticket (แบบใช้ติดต่อกัน 3, 4, 8 หรือ 15 วัน)
- บัตร Swiss Travel Pass (แบบใช้ติดต่อกัน 3, 4, 8 หรือ 15 วัน)
- บัตร Swiss Travel Pass (แบบยืดหยุ่น 3, 4, 8 หรือ 15 วัน)
- บัตร Swiss Half Fare Card (ส่วนลดค่าเดินทาง 50%)
- บัตร Swiss Transfer Ticket
เที่ยว 7 วันในประเทศ Switzerland ยังไงให้คุ้มสุด?
วันที่ 1: จัดวันแรกที่เมือง Zurich
เมืองซูริคเป็นเมืองที่ถือได้ว่าเป็น ศูนย์กลางทางวัฒนธรรม และ เศรษฐกิจของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ ที่นี่ยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ คุณจะได้พบกับสถาปัตยกรรม และ ประวัติศาสตร์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับใครที่เล็งว่าจะช้อปของแบรนด์เนมพวก กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า นาฬิกาหรูๆ ต้องไปช้อปที่เมืองนี้
วันที่ 2 และ วันที่ 3 จัดไปที่ Lucerne
สำหรับเมืองนี้เหมาะสุดสำหรับคุณที่ชอบถ่ายรูป เป็นเมืองที่ถ่ายรูปสวยมากๆ ทั้งเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยภูเขา ลูเซิร์น เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุม เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมากที่สุด ใครที่มีโอกาสได้มาเยือนที่เมืองนี้ คุณจะพลาดไม่ได้ที่จะแวะไปที่ Altstadt เป็นย่านเมืองเก่า หรือ Kapellbrucke หรือสะพานชาเพล เพื่อถ่ายรูปสวยๆ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างเขา ทิตลิส เป็นสถานที่ที่คุณจะได้นั่งกระเช้าลอยฟ้า แถมยังหมุนได้แบบ 360 องศาอีกด้วย
วันที่ 4 เที่ยวที่อินเตอร์ลาเคน (Interlaken)
สถานที่ท่องเที่ยวที่เปรียบเสมืองสวรรค์ ของนักท่องเที่ยว ที่ชอบในกิจกรรมกล้างแจ้ง แค่ได้สูดอากาศที่นี่ พร้อมกับชมวิวภูเขาสวยๆ ก็คุ้มแล้ว เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่คุณต้องไม่พลาด เนื่องจากเป็นไฮไลท์ สำหรับการเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศประสวิตเซอร์แลนด์ เลยก็ว่าได้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับ กีฬาการผจญภัยที่หลากหลาย
วันที่ 5 เที่ยวที่จุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch)
สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ และ ดังมากที่สุด ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แถมยังได้ชื่อว่าเป็นหลังคาของทวีปยุโรปด้วย นั่นก็คือยอดเขา จุงเฟรายอร์ค นั่นเอง ที่นี่เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟชื่อดัง ที่อยู่สูงที่สุดในโลก มีปราสาทน้ำแข็ง และ ทัศนียภาพ สวยสดงดงาม หาชมที่ไหนบนโลกไม่ได้นอกจากที่นี่ที่เดียวเท่านั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยว สำหรับคนไปเที่ยวที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ต้องมาเยือน การันตีด้วยแหล่งมรดกของโลก จากองค์กร ยูเนสโก้ อย่างธารน้ำแข็ง อเลิท์ซ หรือ Aletsch Glacier เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่สุด ของเทือกเขาแอลป์
วันที่ 6 เดินทางไปเที่ยวที่ มองเทรอซ์ (Montreux)
สถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกล้อมไปด้วยไร่องุ่น สามารถมองเห็นเทือกเขาแอลป์ที่ตั้งอยู่ด้านหลังได้อย่างชัดเจน เมืองมองเทรอซ์ เป็นเมืองที่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลายไปกับภาพวิวต่างๆ รวมไปถึงบรรยากาศของตัวเมืองเองด้วย สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้ ที่ขึ้นชื่อมากที่สุดก็คือ ปราสาทชียง (Chateau de Chillon) เป็นปราสาที่รู้จักกันในชื่อว่า ไข่มุกแห่งทะเลสาบ ตัวปราสาทเป็นป้อมปราการ ตั้งแต่ยุคกลาง ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาคุณย้อนกลับไปยังอดีตของประเทศ Switzerland
วันที่ 7 เที่ยวที่เมืองเจนีวา (Geneva)
เมืองเจนีวา เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ของโลกอีกเมืองนึงเลยก็ว่าได้ เป็นเมืองที่ใช้ในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ที่เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสล้วนๆ เป็นที่ตั้งของถนนที่เก่าแก่ที่สุด แถมยังเป็นศูนย์รวมธุรกิจ ที่ทันสมัยเยอะแยะมากมาย จุดเด่นของเมืองนี้ก็คือ น้ำพุ ที่มีชื่อว่า Jet d’eau เป็นน้ำพุ ที่มีความสูงถึง 140 เมตรเลยทีเดียว ตั้งอยู่กลางทะเลสาบเจนีวา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆ
สำหรับแผนท่องเที่ยวด้านบน เพื่อนๆสามารถปรับเปลี่ยน ได้ตามสะดวก แต่ถ้าจะซื้อบัตร แนะนำให้เข้าไปซื้อผ่านทางเว็บไซต์ Klook เนื่องจากมีราคาถูกที่สุด และยังมีแพ็กเกจของบัตร Swiss Rail Pass ให้เพื่อนๆได้เลือกซื้อแบบครบวงจรอีกด้วย ไม่ต้องปวดหัวกับการขึ้นรถไฟ หรือ รถประจำทาง ที่ต้องขึ้นทีก็ซื้อบัตรที เสียเวลาสุดๆ ซื้อบัตร Swiss Rail Pass 2019 ผ่านทางออนไลน์ ราคาถูกกว่าเห็นๆ แถมยังไม่ต้องไปรับด้วยตัวเองอีกด้วย เพราะว่าบัตรจะถูกจัดส่งมาผ่านทาง E-Mail ของคุณเลยเป็น E-Ticket ที่อยู่ในอีเมล สามารถใช้ E-Ticket ใช้แรกได้ตามสถานที่ที่กำหนด สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ด้านล่าง