มาทำความรู้จัก รถไฟชินคันเซ็น ในญี่ปุ่นกัน

เครือข่าย รถไฟ เจอาร์ ประเทศญี่ปุ่น

วันนี้เรามาทำความรู้จัก เครือข่ายรถไฟ เจอาร์ ในประเทศญี่ปุ่น ที่วิ่งให้บริการในพื้นที่ต่างๆ ที่พอจะแบ่งแยก ได้ตามความเร็ว ต่อไปนี้

Shinkansen หรือ รถไฟชินคันเซ็น เป็นรถไฟความเร็วสูง ที่มีชื่อเสียงมากๆของคนญี่ปุ่น รถไฟชินคันเซ็น ที่คนไทยชอบเรียกว่า รถไฟ หัวกระสุน เปิดให้บริการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2507 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งรถไฟชินคันเซ็นมีหลายชื่อ ซึ่งแบ่งตามสาย ดังนี้

โทไคโดชินคันเซ็น เปิดให้บริการเส้นทางแรก ที่เชื่อมต่อระหว่างสถานีโอซาก้า กับ สถานีโตเกียว ซึ่งวิ่งเป็นระยะทาง 552 กิโลเมตร โดยขบวนรถที่นำมาใช้เป็นครั้งแรก มีชื่อว่า “ฮิคาริ” ที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง และจอดเฉพาะ นาโงย่า กับเกียวโต ปัจจุบัน ยังมีรถไฟรุ่นใหม่ๆ โผล่ออกมาให้เห็น แถมยังเป็นรุ่นที่พัฒนาอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น  Series 500, Series 700, N700 และในแต่ละรุ่น ก็สามารถทำความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันรถไฟชินคันเซ็นเกือบทุกขบวน ที่อยู่บนเส้นทางนี้ สามารถรองรับผู้โดยสายได้ถึง 1,324 ที่นั่งเลยทีเดียว และยังเป็นเส้นทางที่มีคนหนาแน่นที่สุด และขบวนรถ ยังออกถี่ที่สุด อีกด้วย รถไฟชินคันเซ็นโทไคโด นั้นสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 270 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง

คิวชูชินคันเซ็น Kyoshu Shinkansen เปิดให้บริการระหว่างสถานี ชินยะสึชิโร่ กับ สถานี คาโงะชิม่าชูโอ ซึ่งเมือง คาโงะชิม่านั้น ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะคิวชู และวิ่งในระยะสั้นๆเท่านั้น เพียง 138 กิโลเมตร รถไฟคิวชูชินคันเซ็นนั้น ตกแต่งได้แบบว่าหรูหรามาก ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ หรือที่นั่งที่ออกแบบมาในรูปแบบ Japanese Style และช่องว่างระหว่างเก้าอี้ ยังดูกว้างขวางอีกด้วย ส่วนความเร็วของรถไฟ คิวชูชินคันเซ็นนั้น ก็เร็วไม่แพ้ใคร สามารถทำความเร็วได้ถึง 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปัจจุบันนั้น ขบวนรถไฟ คิวชูชินคันเซ็น ได้ขยายออกมาถึงสถานีฮากาตะ แถมยังเชื่อมต่อกับรถไฟ โทไคโดะซันโยชินคันเซ็นอีกด้วย

*คนที่ถือ Japan Rail Pass นั้นไม่สามารถ ใช้บริการรถไฟสาย Tokaido-Sanyo และ Kyushu Shinkansen ได้ บนขบวน Nozomi กับ Mizuho แต่ว่าขบวนอื่นๆ สามารถใช้ได้หมดไม่ว่าจะเป็น Sakura, Kodama, Hikari  และ Tsubame

โทโฮกุชินคันเซ็น เป็นรถไฟที่วิ่งขึ้นไปทางเหนือจาก สถานี โตเกียวนั้นเอง และวิ่งจนถึง สถานี ชินอาโอโมริ ที่มีระยะทางถึง 714 กิโลเมตร และยังผ่านเมืองสำคัญของโทโฮกุ ยกตัวอย่างเช่น ฟุกุชิม่า ฮาชิโนแฮะ โมริโอกะ โดยเส้นทางในช่วงแรกนั้น จะเริ่มจากสถานีโตเกียว อุเอโนะ โอมิย่า ฟุกุชิม่า เซ็นได จนถึง โมริโอกะ

โจเอ็นสึชินคันเซ็น มีเส้นทางจากสถานีโตเกียว โดยแยกออกจากสายโทโฮกุ ที่สถานี Omiya ไปสุดที่สถานี Niigata โจเอ็นสึชินคันเซ็น มีรถไฟหลายขบวน ยกตัวอย่าง เช่น  Max Toki, Toki, Tanikawa และ Max Tanikawa โดยรถไฟที่ขึ้นต้นด้วย Max จะเป็นรถไฟ 2 ชั้น และใน 1ขบวนนั้น จะมี 12 โบกี้ และเก้าอี้ในชั้นล่าง 1 แถวจะมี 5ที่นั่งส่วนชั้นบนนั้น 1 แถวจะมี 6 ที่นั่ง แบ่งข้างละ 3 ที่นั่ง ข้อเสียของรถไฟชินคันเซ็นสายนี้คือ ไม่มีที่วางแขน และยังไม่สามารถปรับเบาะให้เอนได้

นากาโน่ชินคันเซ็น เปิดให้บริการเพื่อรองรับ กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เมืองนาโกโน่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ส่วนรถไฟที่นำมาใช้เส้นทางนี้คือ อาซามะซึ่งอยู่ในรุ่น Series E2 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับ ขบวน ฮายาเตะ ขบวนรถไฟ นากาโน่ชินคันเซ็น นั้นออกจากสถานีโตเกียว และแยกเส้นทางไปตามตารางของสาย โจเอ็นสึ จนถึงสถานี Takasaki และได้เบนหัวอีกครั้งไปจนถึงสถานีนากาโน่ ด้วยระยะทาง 222 กิโลเมตรขบวนที่วิ่งเร็วที่สุดวิ่งได้ 222 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 36 นาที

ฮอกไกโดชินคันเซ็น  Hokkaido Shinkansen จะวิ่งจากสถานี Shin Aomori ถึง สถานี Shin Hakodate และมีแผนขยายต่อไปจนถึง Otaru, Sapporo และ Niseko

Hokuriku Shinkansen วิ่งจากสถานี Nagano ผ่าน Toyama ถึงสถานี Kanazawa ภายในปี พ.ศ. 2558

Chuo Shinkasen เป็นเส้นทางใหม่ ที่เชื่อมระหว่างกรุงโตเกียว โคฟุ นาโงย่า นาระ โอซาก้า และรถไฟที่นำมาใช้คือ รถไฟ Linear Shinkansen ที่ใช้ technology Maglev  หรือเรียกอีกอย่างนึกคือ รถไฟพลังแม่เหล็กนั้นเอง รถไฟ Linear Shinkansen สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 580 กิโลเมตร/ชั่วโมง และในขณะนี้ กำลังศึกษาค้นคว้าอยู่ที่ เมืองยามาชิ หากเป็นไปตามแผน รถไฟพลังแม่เหล็กอันนี้ จะเปิดให้บริการในปี พ.ศ. และเมื่อถึงเวลานั้น รถไฟของญี่ปุ่น จะเดินทางเร็วกว่าเครื่องบินอีก

สำหรับใครที่อยากท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น และเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็น ในราคาที่คุ้มที่สุด แนะนำให้ซื้อ ตั๋ว JR Pass เพราะว่าตั๋ว JR Pass เป็นตั๋วที่คุณสามารถนั่งรถไฟในประเทศญีปุ่นได้เกือบทุกที่ทั่วประเทศเลยทีเดียว ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการนั่งด้วย การซื้อบัตร JR Pass จะเป็นแบบเหมาวัน มีให้เลือกหลายแพคเกจ มีแบบ 7 วัน 14 วัน และ 21 วันนั่นเอง ราคาจะแตกต่างกันออกไป