แท็กฟรี – ดิวตี้ฟรี คืออะไร ไขคำตอบสำหรับคนชอบช้อป
สายช้อปรู้ดีว่านอกจากการช้อปในสิ่งที่ต้องการ “ความคุ้มค่า” เป็นหนึ่งของแถมที่ช่วยสร้างบันไดไปสู่สวรรค์แห่งการช้อปปิ้งให้ Complete มากขึ้น และไม่เพียงแค่สินค้าลด แลก แจก แถมเท่านั้นที่สำคัญ รู้หรือไม่ว่าการซื้อสินค้าปลอดภาษีเป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยให้งบในกระเป๋าไม่บานปลาย และเชื่อว่าหลายคนที่กำลังวางแพลนช้อปกระจาย ใช้บัตรเครดิตใช้ต่างประเทศแบบ Non stop อาจมีความสับสนเบา ๆ ว่าระหว่างซื้อของ Duty Free ต่างประเทศกับ Tax Free แตกต่างกันยังไง? บทความนี้มีคำตอบให้สายช้อปทำความเข้าใจก่อนควักเงินในกระเป๋า
สินค้า Duty Free – Tax Free คืออะไร?
ใครเคยมีประสบการณ์เที่ยวต่างประเทศ ซื้อเสื้อผ้า น้ำหอม เครื่องสำอาง หรือช้อปของฝากในต่างแดน อาจเคยสังเกตเห็นสัญลักษณ์ Tax free หรือบางที่อาจมีสัญลักษณ์ Duty free ที่บ่งบอกถึงความเป็นร้านค้าปลอดภาษีเหมือนกัน แต่กลับใช้คำแตกต่างกันจนทำให้เกิดความสับสน จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะเป็น Duty free หรือ Tax free ล้วนมีความหมายที่พูดถึงภาษี เพียงแต่มีข้อแตกต่างที่สามารถจำแนกได้ง่าย ๆ ดังนี้
Tax free
หากเดินช้อปสินค้าแล้วตาไปสะดุดกับคำว่า Tax free ที่เป็นสติกเกอร์แปะอยู่บนสินค้า ให้ทำความเข้าใจก่อนเลยว่าภาษีที่สินค้าละเว้นคือ “ภาษีมูลค่าเพิ่ม” หรือที่บ้านเราเรียกว่า Vat นั่นเอง ตัวอย่างง่าย ๆ สมมุติคุณซื้อของฝากญี่ปุ่นราคา 500 เยน หากเป็นคนญี่ปุ่นต้องเสีย Vat เพิ่ม 8% แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติจะจ่ายค่าสินค้าเต็มจำนวน 500 เยนโดยไม่ต้องบวก Vat โดยสินค้าส่วนที่มักได้รับการละเว้นการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับชาวต่างชาติ มักเป็นสินค้าท้องถิ่นของประเทศนั้น ๆ ร้านของประเทศนั้น ๆ หรือร้านที่ประเทศนั้น ๆ เป็นผู้ผลิต แต่ย้ำว่าต้องเป็นสินค้าที่มีคำว่า Tax free เท่านั้น หากไม่มั่นใจสามารถสอบถามพนักงานที่ร้านได้เลย เพื่อผลประโยชน์ต่อตัวคุณเอง
Duty free
เป็นร้านค้าปลอดภาษีที่หลายคนอาจคุ้นเคยมากกว่า Tax free เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่มีให้เห็นเกือบทุกสนามบินทั่วโลก ซึ่งสินค้า Duty Free คือภาษีการนำเข้า – ส่งออก หรือภาษีอากรที่เกี่ยวข้องกับศุลกากร หากร้านค้าร้านไหนมีการแปะป้ายว่าตัวเองเป็นร้าน Duty Free วางใจได้เลยว่าสินค้าที่คุณกำลังจะจ่ายเงินเป็นสินค้าปลอดภาษีอากร ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนภาษีสุราและบุหรี่ ที่สำคัญข้อดีของสินค้า Duty Free คือ “ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ” ดังนั้นไม่ว่าจะซื้อยอดเท่าไหร่ ซื้อสินค้ากี่ชิ้น สุดท้ายแล้วก็ยังคงไม่ต้องเสียภาษีตามที่กล่าวมาเช่นเดิม
ความแตกต่างระหว่าง Duty Free – Tax Free
| เงื่อนไขสินค้า | Tax Free |
Duty Free |
| เอกสารยืนยันก่อนซื้อ | ยื่น Passport พร้อมตั๋วเครื่องบินให้กับพนักงานก่อนชำระเงิน | แสดงหนังสือเดินทางหรือ Passport ทุกครั้ง หรือบางครั้งพนักงานอาจมีการเรียกดูตั๋วเครื่องบินขากลับ เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศจริง ๆ และสามารถไปรับของที่สนามบินปลายทางได้ |
| กฎของตัวสินค้า | สินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง ยา และอาหารต้องนำไปใช้นอกประเทศเท่านั้น แต่สินค้าประเภทเสื้อผ้าหรืออื่น ๆ สามารถใช้ได้ทันที | สินค้าปลอดภาษี Duty Free เป็นสินค้าสำหรับใช้นอกประเทศเท่านั้น และรับสินค้า ณ สนามบินตอนขาออกจากประเทศเท่านั้น ไม่สามารถรับของที่ร้านค้าต้นทางได้ทันที |
| เอกสารหลังการซื้อ | พนักงานจะเย็บใบเสร็จแนบ Passport มาให้ตอนชำระเงินแล้ว ต้องเก็บให้ดีเพื่อนำไปยื่นกับพนักงานศุลกากรที่สนามบิน และหากพบว่าสินค้าที่เป็นข้อยกเว้นมีการแกะใช้ไปแล้ว จะถูกโดนเก็บภาษีย้อนหลังเพราะทำผิดกฎ | จะได้รับใบเสร็จพร้อมใบรับสินค้าเพื่อนำไปยื่นรับของที่สนามบิน ณ จุดรับของที่ร้านค้าต้นทางแนบมา |
| ผู้มีสิทธิ์ซื้อสินค้า | จำกัดเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น | นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนในประเทศที่มีการเดินทางออกนอกประเทศจริง |
| ยอดซื้อขั้นต่ำ | มียอดซื้อขั้นต่ำ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของร้าน) | ไม่กำหนดยอดซื้อขั้นต่ำ |
| ข้อจำกัดสำคัญ | เช็กจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศปลายทาง และบางร้านอาจลดราคาสินค้าตาม Tax Free ได้ทันที แต่บางร้านอาจต้องทำเรื่อง Tax Refund ภายหลัง | จะได้รับการละเว้นภาษีทุกชนิด และไม่ต้องทำเรื่องขอภาษีคืนเหมือนTax Refund |
ใครกำลังมีแพลนช้อปเสื้อผ้าแบรนด์เวียดนาม เครื่องสำอาง ของกิน ของใช้ หรือของฝากจากต่างประเทศ แนะนำมองหาสัญลักษณ์ Duty Free หรือ Tax Free เพื่อความคุ้มค่าด้วยการละเว้นการจ่ายภาษีอย่างถูกกฎหมาย แต่ถึงอย่างไรต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้กระทำผิดกฎหมายและโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ที่สำคัญอย่าลืมเพิ่มความคุ้มค่าให้เงินในกระเป๋าด้วยบัตรเครดิต UOB Premier ยกระดับการช้อปปิ้งให้เต็มอิ่มมากขึ้นด้วยสิทธิพิเศษที่หลากหลาย รับคะแนนสะสม X4 และ X2 เมื่อใช้จ่ายที่ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลอดภาษี ใช้จ่ายในประเทศ และการใช้จ่ายที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ พร้อมรับเครดิตเงินคืน 5% และแลกรับเครดิตเงินคืน 15% ที่ห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ
>>ช้อปสนุกไม่มีสะดุด ผ่านบัตรเครดิต UOB Premier<<อ่านเพิ่มเติม :
- รีบซื้อตั๋วรถไฟ JR Pass และ กิจกรรมในญี่ปุ่น ก่อนปรับภาษี 1 ต.ค. นี้
- ญี่ปุ่นเตรียมขึ้นภาษี 1 ตุลาคม 2019 นี้
- กรมสรรพากร ยืนยัน “ไม่เก็บภาษีเงินสินสอด” งานแต่งอย่างที่เป็นข่าวบนโลกออนไลน์
